สเวน โกรัน อีริคสัน ตั้งคำถามถึงการตัดสินใจของเขาที่จะออกจากลาซิโอ ยอมรับว่าเขารู้สึกเสียใจที่ต้องยอมรับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษรายนี้ และเชื่อว่าการครองราชย์ของเขาสิ้นสุดลงเพราะถูกหนังสือพิมพ์กัดมากกว่าผลการแข่งขัน
ชาวสวีเดนซึ่งเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่าเขาป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย กลายเป็นนายใหญ่ชาวต่างชาติคนแรกของอังกฤษในเดือนมกราคม ปี 2544 และดูแลโชคลาภของพวกเขาจนกระทั่งสิ้นสุดฟุตบอลโลกปี 2549
หลายเดือนก่อนที่เขาจะเข้ามารับตำแหน่ง เอริคสันนำลาซิโอคว้าแชมป์เซเรีย อาเป็นครั้งที่สองและล่าสุดในปี 1999-2000 โดยเคยประสบความสำเร็จกับสโมสรต่างๆ ในสวีเดนและโปรตุเกส ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา’
สเวน โกรัน อีริคสัน ตั้งคำถามถึงการตัดสินใจของเขาที่จะออกจากลาซิโอ เพื่อไปทำงานระดับท็อปของอังกฤษ
แต่อีริคสันขาดการติดต่อไมดาสกับอังกฤษ ไม่สามารถคว้าถ้วยรางวัลได้แม้จะเป็นประเทศที่เรียกว่า รุ่นทอง และความปรารถนาของวัย 75 ปีในบางครั้งที่เขายังคงอยู่ในอิตาลี
ในการสัมภาษณ์ที่หลากหลายกับ Swedish Radio P1 ซึ่งเขาเปิดเผยการวินิจฉัยโรคมะเร็งตับอ่อนของเขา Eriksson กล่าวว่า “มันเป็นชีวิตที่มหัศจรรย์ ฉันสนุกกับมันอย่างทั่วถึง แต่วันหนึ่ง ฉันได้รับโทรศัพท์จากอังกฤษ และฉันก็ตัดสินใจ ฉันคิดในใจว่านี่เป็นทางเลือกที่ถูกต้องหรือไม่ บางทีฉันควรจะอยู่ที่ลาซิโอที่ซึ่งฉันได้รับการเฉลิมฉลองในฐานะกษัตริย์
งานเดียวที่ฉันจินตนาการได้คือเป็นผู้จัดการทีมอังกฤษ เพราะนั่นคือที่ใหญ่ที่สุดที่มีอยู่ ในบางจุด ฉันรู้สึกว่ามีเกมน้อยลงมาก มันยากกว่ามากที่จะชนะบางสิ่งบางอย่างเมื่อคุณไปติดทีมชาติ คุณสามารถชนะบางสิ่งได้ทุกๆ ปีที่สี่ นั่นเป็นความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่
นักเตะอย่างเดวิด เบ็คแฮม, ไมเคิล โอเว่น, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ริโอ เฟอร์ดินานด์ และเวย์น รูนีย์ เติบโตในระดับสโมสรในช่วงต้นถึงกลางทศวรรษ 2000 แต่กลับพยายามดิ้นรนเพื่อทำซ้ำฟอร์มนั้นในเวทีระดับนานาชาติ อังกฤษตกรอบฟุตบอลโลกทั้งปี 2545 และ 2549 และยูโร 2547 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ สองทัวร์นาเมนต์หลังถูกโปรตุเกสตกรอบด้วยการดวลจุดโทษ
อย่างไรก็ตาม ไม่กี่เดือนก่อนฟุตบอลโลกปี 2006 มีการประกาศว่าอีริคสันจะก้าวลงจากอังกฤษหลังจากสิ้นสุดทัวร์นาเมนต์ แม้จะมีสัญญาเหลืออีกสองปีก็ตาม เรื่องนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากเรื่องราวของ News of the World ที่นักข่าวนอกเครื่องแบบสวมรอยเป็นนักลงทุนชาวอาหรับที่ร่ำรวย และบันทึกภาพ Eriksson บอกว่าเขาจะเตรียมพร้อมที่จะเป็นหัวหน้าทีม Aston Villa
Eriksson กล่าวเสริมว่า มันน่าตกใจมากในครั้งแรกที่เราเริ่มเห็นเรื่องราวบนหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ ฟุตบอลอยู่หน้าหลังตามปกติในอังกฤษ และฉันก็อยู่หน้าหลัง แต่หลังจากนั้นฉันก็อยู่หน้าหนึ่งเช่นกัน นั่นมันไม่จำเป็นเลยจริงๆ
สื่ออังกฤษไม่ใช่สิ่งที่คุณทำวุ่นวาย พวกเขาไม่สนใจว่าบางสิ่งจะเป็นจริงหรือไม่ นั่นเป็นเรื่องลบครั้งใหญ่เกี่ยวกับอังกฤษ ส่วนหนึ่งของสื่อ สื่อฟุตบอลก็โอเค ฉันถูกไล่ออกจากอังกฤษเพราะชีคตัวปลอม ไม่ใช่เพราะผลลัพธ์ และนั่นทำให้ฉันโกรธมากในตอนนั้น